วันพุธที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ทายนิสัยจากปีเกิดของจีน (ปีมะแม )

(ปีมะแม)



  • มีกำลังใจเข้มแข็ง
  • สุภาพ สุขุม ลุ่มลึก
  • ละเมียดละไม จริงใจสุดฤทธิ์
  • ชอบบริหารเสน่ห์เป็นงานหลัก
  • ขี้สงสาร ขี้เหงา ขี้อาย
  • ตัดสินใจช้ามาก
  • บ่นเก่งไม่เบา
  • เป็นคุณนาย (หรือคุณชาย) สายเสมอ
  • ใจกว้าง พร้อมจะให้อภัยเสมอ
  • มักเสียสละเพื่อผู้อื่น
  • มักเป็นห่วงเป็นกังวล
  • ไม่มีความดันทุรังสูง
  • อดทนอดกลั้น สุดอัศจรรย์
  • เจ้าเล่ห์เจ้ากลแนบเนียนมาก
  • สนใจเรื่องเร้นลับ
  • ปฏิเสธความก้าวร้าวและความรุนแรง
  • ร้อยวันพันปีมีโมโหน้อยครั้ง
  • ไม่ชอบการแข่งขันทุกรูปแบบ
  • ปลอบโยนเก่ง ให้คำแนะนำได้ซึ้งมาก
  • โรแมนติกสุดหัวใจ
  • บุคลิกอ่อนโยน แต่ใจเด็ดมาก
  • ยอมเหนื่อยทางตรงมากกว่าสนทางลัด
  • เน้นหลักช้าๆได้พร้าเล่มงาม
  • รู้จักปรับตัวในทุกสถานการณ์
  • ไม่ขี้เหนียว แต่ก็ไม่สุรุ่ยสุร่าย
  • แคร์คนรอบข้างเสมอ
  • แต่ไม่ค่อยปลื้มกับความเปลี่ยนแปลงใดๆ
  • ยึดมั่นในความรักและความผูกพัน
  • เป็นนักเจรจาต่อรองที่ดีเลิศ
  • ไม่เคยหวั่นแม้วันเจอมรสุมชีวิต

* ตรงไม่ตรงก็เม้นบอกด้วยนะ *


เครดิต : FW Mail

ทายนิสัยจากปีเกิดของจีน (ปีมะเมีย)

(ปีมะเมีย)

  • เปิดเผย ไม่เคยมีความลับ
  • มีหัวใจเสรี
  • มีมุขฮาๆ มาโชว์เสมอ
  • นิยมความเลิศหรู ดูโดดเด่น
  • สดชื่น รื่นเริงตลอดปี
  • จัดการเรื่องเงินเก่งมาก
  • ฉลาดเฉลียว เอาตัวรอดเก่ง
  • เป็นหัวหน้าฝ่ายกิจกรรมได้ดี
  • มีความทะเยอทะยานสูง
  • ชอบให้ยกยอปอปั้น
  • ชอบการแสดงออกสุดฤทธิ์
  • มีเรี่ยวแรงเหลือเฟือ เหนื่อยยาก
  • ขี้เบื่อ สมาธิสั้นมาก
  • อดทนน้อย อดกลั้นไม่เก่ง
  • โกรธใครเป็นต้องทำหน้าหงิกทันที
  • รักการเดินทาง ผจญภัย
  • สนุกกับชีวิตมากกว่าจะเอาจริงเอาจัง
  • รู้จักรอมชอม ไม่ก้าวร้าว
  • ตามใจตัวเองเป็นที่หนึ่ง
  • ชอบเคลื่อนไหว ไม่อยู่นิ่ง
  • ฉุนใครเป็นต้องโต้ตอบ
  • ไม่ยอมให้ตัวเองทุก ข์ เศร้าบ้าง
  • บางครั้งก็ถอดใจ ยอมแพ้ได้อย่างคาดไม่ถึง
  • กล้ารัก กล้าเลิก
  • มีมิตรสหายเป็นแสน
  • แต่ก็มีคนชังเพราะปากตัวเอง
  • ไม่หวั่น แม้ยิ่งสูงยิ่งหนาว
  • หาญกล้า บ้าบิ่น
* ตรงไม่ตรงก็เม้นบอกด้วยนะ *

เครดิต : FW Mail

วันศุกร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ทายนิสัยจากปีเกิดของจีน (ปีมะเส็ง)

(ปีมะเส็ง)
  • เซ็กซี่ มีความเร้าใจ
  • ฉลาดลึกล้ำ
  • อยู่ในโลกของความจริงมากกว่าเพ้อฝัน
  • ความจำเป็นเลิศ
  • ใจแข็ง ใจเด็ด
  • อารมณ์ขันนะมี แต่ฝืดเล็กน้อย
  • ช่างสังเกต ช่างระแวดระวัง
  • มีความมุ่งมั่นสูง
  • เป็นเจ้าของโครงการในฝันนับร้อย
  • เยือกเย็น แต่โมโหร้าย
  • ไม่ชอบเปิดเผย ไม่ชอบวุ่นวายกับใคร
  • มีลางสังหรณ์ ความรู้สึกไว
  • เจ้าคิดเจ้าแค้น
  • แต่ไม่มีเล่ห์เหลี่ยมมารยา
  • ชอบเรียนรู้ หัวไว
  • รักจริงหวังแต่ง
  • แสดงออกทางอารมณ์ไม่เก่งนัก
  • ไม่ชอบนินทาใคร
  • ไม่เห็นว่าเงินเป็นพระเจ้า
  • กระตือรือร้นน้อยมาก
  • เชื่อความรู้สึกมากกว่าเหตุผล
  • ชอบแสดงความเป็นเจ้าของ
  • รักเพื่อน แต่มีเพื่อนซี้น้อย
  • จริงใจ แต่ทำตัวเหมือนไม่เปิดกว้างนัก
  • ชอบสบายกับทางลักมากกว่าทางตรง
  • ชอบช่วยคนด้วยหวังดี แต่มักผิดหวัง
  • ทุ่มเทมุ่งมั่นได้แค่ช่วงสั้นๆ
  • ไม่กลัวลำบาก
  • บางครั้งก็ชอบคิดในแง่ลบก่อนแง่บวก
  • ถ้าโกรธ ไม่เย็นเหมือนบุคลิกหรอก
* ตรงไม่ตรงก็เม้นบอกด้วยนะ *


เครดิต : FW Mail

ทายนิสัยจากปีเกิดของจีน (ปีมะโรง)

(ปีมะโรง)
  • ปลื้มความเนี้ยบ ทุกอย่างต้องเพอร์เฟคต์
  • บุคลิกน่าเกรงอกเกรงใจ
  • มีวาสนา บารมีสูง
  • มีเสน่ห์ มักเป็นดาวเด่นเสมอ
  • มีหัวใจแกร่ง และหาญกล้า
  • รับผิดชอบสูง
  • เป็นหัวหน้าคนได้สบาย
  • ฉลาดปราดเปรื่อง
  • มีเพื่อนฝูงติดสอยห้อยตามเพียบ
  • มีความรู้กว้างขวางมาก
  • ชอบคนง่าย แต่เลือกมาเป็นคู่ยากมาก
  • บ่อยครั้งเผด็จการ ชอบควบคุมผู้อื่น
  • ประสบความสำเร็จเร็ว
  • รักเกียรติรักศักดิ์ศรีมาก
  • หน้าใหญ่ ใจกว้าง
  • รักอิสระ แต่ก็มีระเบียบแบบแผน
  • ชอบท่องเที่ยว ผจญภัย
  • เจ้าอารมณ์
  • ชอบรักษาฟอร์ม ภาพพจน์ต้องดูดีเสมอ
  • อ่อนไหว ขี้เหงา เศร้าเก่ง
  • ไม่ชอบพึ่งพาผู้อื่น
  • ชอบช่วยเหลือผู้คน
  • ยุ่งเรื่องส่วนตัวผู้อื่นมากไปนิด
  • ปลื้มคนมีความสามารถมากกว่าคนมีเงิน
  • สนใจใคร่รู้ในทุกเรื่อง
  • เรียกร้องความรักอย่างสูงสุด
  • แสวงหาแต่ความชื่นชอบยอมรับจากคนรอบข้าง
  • แต่ไม่ค่อยทุ่มเทความรักตอบแทนไป
  • ยิ่งมีอายุ ยิ่งดูเด็กลง
  • หลงตัวเองเหมือนกันนะ
* ตรงไม่ตรงก็เม้นบอกด้วยนะ *

เครดิต : FW Mail

วันพฤหัสบดีที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ทายนิสัยจากปีเกิดของจีน (ปีเถาะ)

(ปีเถาะ)


  • ปัญญาดี มีไหวพริบ
  • เป็นนักเจรจา คารมเป็นเลิศ
  • ใจดี ใจกว้าง ใจละเมอ
  • หวาดหวั่นขวัญเสียง่าย
  • เสน่ห์แรง เพื่อนฝูงติดหนึบ
  • เฮฮาปาร์ตี้กับเพื่อนๆได้
  • แต่ก็ชอบชีวิตสงบๆเงียบๆ
  • มีคุณธรรมสูง
  • อ่อนโยน แต่ก็เจ้าอารมณ์ไม่เบา
  • รสนิยมดี ชอบความเก๋ไก๋
  • ดูเหมือนหัวอ่อนว่าง่าย แต่ดื้อเงียบ
  • ไม่ค่อยกระตือรือร้นนัก
  • มีอารมณ์ติสต์ อ่อนไหวสูง
  • ปฏิเสธการต่อสู้ การเสี่ยงทุกรูปแบบ
  • รักสวยรักงามตลอด
  • ชอบการคลอเคล้าพะเน้าพะนอ
  • รักแรง เกลียดแรง
  • เกลียดความก้าวร้าว รุนแรง
  • ยากที่ใครจะอ่านใจได้ทะลุปรุโปร่ง
  • ไม่ชอบกฎระเบียบ
  • เป็นกระต่ายน้อยผู้เสียสละ
  • ช่างสังเกตเป็นที่สุด
  • บ่อยครั้งที่จุกจิกจู้จี้เกินเหตุ
  • มีความห่วงใยเอื้ออาทร
  • เป็นนักจับผิดตัวยง
  • ยากที่จะคิดไม่ซื่อหรือเอาเปรียบใคร
  • รักอาชีพการงานของตน
  • โอ้อวดตนได้อย่างแนบเนียน
  • เข้าใจและยอมรับข้อด้อยของคนอื่นได้
  • มักภาคภูมิใจในตนเอง


* ตรงไม่ตรงก็เม้นบอกด้วยนะ *

เครดิต : FW Mail

ทายนิสัยจากปีเกิดของจีน (ปีขาล)

(ปีขาล)
 
  • มีความนับถือตัวเองสูง
  • รักงาน
  • จริงใจใสซื่อ
  • กล้าทำในสิ่งแตกต่าง
  • มาดดี มีแต่คนอยากคบ
  • เป็นนักปฏิวัติ
  • ไม่กลัวความล้มเหลว
  • หงุดหงิดง่าย แต่ไม่งอนใครนาน
  • ชอบแสวงหาความแปลกใหม่ ท้าทาย
  • บางครั้งก็ดันทุรังสูง
  • รักเด็ก
  • อยากรู้อยากเห็น เรียนรู้เร็ว
  • วู่วาม แต่ก็มีความอ่อนโยนนะ
  • มากด้วยน้ำใจไมตรี
  • มีอารมณ์ละไม ชอบศิลปะ
  • สนุกกับโชคชะตา ไม่กลัวล้มเหลว
  • ชอบเล่นกีฬา
  • ชอบผจญภัย
  • มักรีบด่วนตัดสินใจ
  • สนุกกับเรื่องท้าทายได้ทุกเมื่อ
  • รักอิสระ
  • แต่ก็มีวินัยในการดำรงชีวิต
  • ยามโกรธ โทสะแรง
  • แก้ปัญหาได้เอง
  • มักเสียใจลึก แต่ก็ฟื้นตัวได้เร็ว
  • ไม่ชอบงอมืองอเท้าพึ่งพาใคร
  • ทะเยอทะยานสูง
  • ใจบุญสุนทาน
  • ขี้หวงขี้หึง
  • รักง่าย รักร้อนแรง

* ตรงไม่ตรงก็เม้นบอกด้วยนะ *

เครดิต : FW Mail

วันพุธที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ทายนิสัยจากปีเกิดของจีน (ปีฉลู)

(ปีฉลู)
  
  • สุขุม มาดดี ไม่ช่างจ้อ
  • อดทนได้อย่างสุดอัศจรรย์
  • คงมั่น ยากหวั่นไหว
  • ขี้อาย เขินเก่งนักเชียว
  • แสนจะอบอุ่นและอ่อนโยน
  • หัวดื้อ แบบว่าดื้อเงียบ
  • หัวเก่า หัวโบราณ
  • หัวแข็ง เปลี่ยนแปลงยาก
  • หัวใจไม่ง่าย รักคนยาก
  • รักแล้ว ลืมยาก แต่ไม่ยอมเศร้า
  • ชอบของเก่าๆด้วยล่ะ
  • กตัญญูเป็นที่หนึ่ง
  • มีความรับผิดชอบสูง
  • ซื่อสัตย์ น่าเชื่อถือ
  • มีความหยิ่งทระนง ถือศักดิ์ศรี
  • รักษาสัญญาสุดฤทธิ์
  • ไม่สนใจความคิดผู้อื่น
  • ไม่เจ้าเล่ห์แสนกล
  • ใน 5 ปี อาจมีอาละวาดสัก 1 ครั้ง
  • ขยันขันแข็ง
  • ไม่ค่อยถนัดเรื่องยั่วเย้าเคล้าคลอ
  • เลือกแฟนที่จิตใจ มิใช่หน้าตา
  • รักครอบครัวมาก
  • รักบ้าน รักครอบครัว
  • ไม่ชอบออกไปเที่ยวเฮฮาปาร์ตี้
  • ยากจะเอ่ยปากให้ใครช่วยเหลือ
  • คบเพื่อนน้อย เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ
  • เน้นเกียรติยศมากกว่าเงินทอง
  • ปากตรงกับใจ
  • แต่มักจะปากหนัก ชอบคิดมากกว่า

* ตรงไม่ตรงก็เม้นบอกด้วยนะ *

 เครดิต : FW Mail

ทายนิสัยจากปีเกิดของจีน (ปีชวด)

(ปีชวด)
  • ปรับตัวได้เก่งในทุกสถานการณ์
  • คารมดี พูดจูงใจเก่งมาก
  • ไอ.คิว.เป็นเลิศ
  • รักใครเป็นทุ่มหมดใจหมดกระเป๋า
  • เห็นวันนี้แสนขยัน แต่พรุ่งนี้อาจนอนขี้เกียจทั้งวัน
  • เป็นนักลงทุนที่ชาญฉลาด
  • มีความทะเยอทะยานสูง
  • เป็นนักสะสม
  • เป็นนักชอปปิ้ง ชอบของลดราคา
  • เพื่อนมาก ญาติเยอะ
  • ชอบพึ่งพาตนเอง
  • ไฮเปอร์จัด มาดนิ่ง แต่ไม่ชอบอยู่นิ่งเฉย
  • ไม่ชอบความผูกพัน
  • เก็บความลับเก่ง
  • เก็บความรู้สึกก็เก่งนะ
  • เก็บเงินได้ ใช้เงินเป็น
  • แก้ปัญหาเก่งมาก
  • แต่แสดงออกทางอารมณ์ไม่เก่ง
  • ถือผลประโยชน์ตนเป็นสำคัญ
  • ขี้หวง ขี้หึง
  • ขี้บ่น ขี้ระแวง
  • ช่างติ ช่างวิจารณ์
  • ไม่ชอบเก็บอะไรมาคิดให้รกสมอง
  • บางครั้งก็เชื่อใจผู้อื่นง่ายเกินเหตุ
  • ชอบสังสรรค์บันเทิง
  • ถนัดดูแลงานด้านท่องเที่ยวบันเทิง
  • คิดฝันในเรื่องรักแบบซึ้งสุดใจ
  • เน้นความสบาย ไม่ชอบเรื่องซีเรียสใดๆ
  • ไม่ถนัดเรื่องละเอียดอ่อนนัก
* ตรงไม่ตรงก็เม้นบอกด้วยนะ *

เครดิต : FW Mail

ข้อคิดดีๆจาก "ขี้ไก่" กับ "ไข่ไก่"

เรื่องเล่าจากหลวงพ่อชา - “คนเลี้ยงไก่”

มีคนเลี้ยงไก่ 2 คน

คนที่ 1 ทุกเช้าจะเอาตะกร้าเข้าไปในโรงเรือนเลี้ยงไก่ แล้วก็เก็บ "ขี้ไก่" ใส่ตะกร้ากลับบ้าน!! แล้วทิ้งไข่ไก่ให้เน่าไว้ในโรงเรือน เมื่อเขาเอาขี้ไก่กลับถึงบ้าน ทั้งบ้านก็เหม็นหึ่ง ไปด้วยกลิ่นขึ้ไก่ !!! คนทั้งบ้านต้องทนกับกลิ่นเหม็น!!!

คนเลี้ยงไก่คนที่ 2 เอาตะกร้าเข้าไปในโรงเรือนเลี้ยงไก่ เก็บ "ไข่ไก่" ใส่ตะกร้าเอากลับบ้าน เขาเอาไข่ไก่ลงเจียว กลิ่นหอมอบอวลไปทั่วบ้าน คนทั้งบ้านได้กินไข่เจียวแสนอร่อย ไข่ไก่ที่เหลือเขาก็ เอาไปขาย แล้วได้เงินมาใช้จ่ายในบ้าน ทุกคนในบ้านมีความสุขมาก.....

ในชีวิตของเรา พวกเรา เป็นคนเก็บ "ไข่ไก่" หรือ เก็บ"ขี้ไก่"

เราเป็นคนเก็บ "ขี้ไก่" โดยเฝ้าแต่เก็บเรื่องร้ายๆ แย่ๆที่เกิดขึ้นในชีวิตเราไว้ในหัวของเรา และมีความทุกข์ตลอดเวลาที่คิดถึงมัน!!! หรือเราเป็นคนที่เก็บ "ไข่ไก่" เราจดจำสิ่งที่ดีๆที่เกิดในชีวิตของเรา และมีความสุขทุกครั้งที่คิดถึงมัน!!

คนเราส่วนใหญ่ชอบเป็นคนเก็บ "ขี้ไก่"

เราถึงต้องเป็นทุกข์ตลอดเวลา เรื่องความเสียใจ ความผิดพลาด ความเจ็บใจ ฯลฯ มักจะติดอยู่ในใจ ของเรานานเท่านาน

ถ้าเราอยากมีความสุขในชีวิต เลือกเก็บ "ไข่ไก่" กับชีวิต และทิ้ง "ขี้ไก่"

วันจันทร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2553

โปรแกรมความรัก

โปรแกรมความรัก สำหรับใครบางคน หรือทุกคนที่กำลังต้องการ



ช่างเทคนิค : ฮัลโหล สวัสดีครับ มีอะไรให้รับใช้ครับ

ลูกค้า : ดิฉันได้นั่งนึกดูแล้วคิดว่า โปรแกรมความรัก นี่ก็น่าสนใจ ดีนะคะ คุณช่วยกรุณาแนะนำดิฉันหน่อยได้ไหมคะว่าจะลงโปรแกรมนี้ยังไง

ช่างเทคนิค : ด้วยความยินดีครับ ไม่ทราบว่าพร้อมที่จะลงโปรแกรม หรือยังครับ

ลูกค้า : อืม... ไม่รู้เหมือนกันคะ บอกตามตรงว่าดิฉันไม่ค่อยรู้ เรื่องคอมพิวเตอร์เท่าไร แต่ดิฉันคิดว่าน่าจะพร้อมคะ ไม่ทราบว่าต้องเริ่มทำยังไงบ้างคะ

ช่างเทคนิค : อันดับแรกเลยคุณต้องเปิดใจคุณก่อนครับ

ลูกค้า : ไม่มีปัญหาคะ แต่ว่าตอนนี้ฉันเปิดใช้โปรแกรมอื่นอยู่ด้วย ไม่ทราบว่าจะมีปัญหาในการติดตั้งไหมคะ ถ้าฉันไม่ได้ปิดโปรแกรมพวกนี้

ช่างเทคนิค : ไม่ทราบว่าโปรแกรมอะไรหรือครับที่กำลังเปิดใช้งานอยู่

ลูกค้า : เดี๋ยวขอดิฉันดูนิดนึงนะคะ อืม... ก็มีโปรแกรม "ความเจ็บปวดในอดีต" "การไม่เห็น คุณค่าของตัวเอง", "ความริษยา", "ความขุ่นเคือง" และก็ "โปรแกรมความโกรธ" ทั้งหมดที่เปิดก็มีเท่านี้คะ

ช่างเทคนิค : ไม่มีปัญหาครับ โปรแกรมความรักจะค่อยๆลบความเจ็บปวดในอดีตออกจากระบบปฏิบัติการครับ มันอาจจะคงอยู่ในหน่วยความทรงจำแต่ว่าจะไม่รบกวนการทำงานของโปรแกรมอื่นๆครับไม่ต้องกังวล สำหรับโปรแกรมการไม่เห็นคุณค่าของตัวเองนั้นจะค่อยๆหายไปเอง เพราะส่วนประกอบส่วนหนึ่งของโปรแกรมความรัก คือการเห็นคุณค่าของตนเอง ส่วนนี้จะค่อยๆเข้ามาแทนที่อย่างช้าๆ จนการไม่เห็นคุณค่าตัวเองหมดไป แต่ว่าคุณเองจะต้องปิดโปรแกรมความริษยา ความขุ่นเคืองและ ความโกรธลง เพราะโปรแกรมพวกนี้จะขัดขวางไม่ให้โปรแกรมความรักสามารถติดตั้งได้ รบกวนช่วยปิดโปรแกรมพวกนี้ ก่อนได้ไหมครับ

ลูกค้า : บอกตามตรงเลยนะคะ ดิฉันไม่รู้จริงๆคะว่าจะปิดโปรแกรมพวกนี้ยังไง

ช่างเทคนิค : เข้าไปที่ Start Menu นะครับแล้วเรียกโปรแกรมการให้อภัยขึ้นมา ต้องเปิดโปรแกรมนี้เรื่อยๆจนกว่าความริษยา, ความขุ่นเคืองและก็ความโกรธจะถูกลบออกไปจนหมด

ลูกค้า : ได้คะ.... เสร็จแล้วคะ ตอนนี้โปรแกรมความรักเริ่มที่จะติดตั้งอัตโนมัติแล้วคะ แต่เอ.. นี่เป็นปกติของโปรแกรมใช่ไหมคะที่ติดตั้งด้วยตัวมันเอง

ช่างเทคนิค : ใช่ครับ แต่อย่าลืมนะครับว่านี่เป็นเพียงโปรแกรมพื้นฐานเท่านั้น คุณจะต้องติดต่อกับหัวใจดวงอื่นๆเพื่อที่จะได้ upgrade โปรแกรมความรักให้มี version ที่สูงขึ้น

ลูกค้า : อุ้ย.... มีข้อความผิดพลาดขึ้นที่หน้าจอ บอกว่า "โปรแกรมไม่สามารถติดต่อออกไปสู่ภายนอกได้" ดิฉันควรทำยังไงดีคะ

ช่างเทคนิค : ไม่ต้องตกใจครับ นั่นแสดงว่า ตอนนี้โปรแกรมความรักได้ติดตั้งอยู่ภายในใจคุณเรียบร้อยแล้วครับ แต่ที่โปรแกรมยังไม่สามารถใช้งานได้ ก็เพราะว่าคุณต้องเริ่มรักตัวคุณเองก่อน จากนั้นคุณถึงจะรักคนอื่นได้

ลูกค้า : แล้วดิฉันควรจะทำยังไงคะ

ช่างเทคนิค : คุณช่วยเลื่อนการยอมรับตัวเองลงมาหน่อยได้ไหมครับ จากนั้นให้คลิกที่ไฟล์ "การยกโทษให้ตนเอง" "การรู้ถึงคุณค่าของตัวเอง" และ "การยอมรับถึงความจำกัดในตัวคุณ"

ลูกค้า : ได้คะ... เสร็จแล้วคะ

ช่างเทคนิค : OK ครับ. จากนั้นก็ Copy ไฟล์พวกนี้เข้ามาในไดเร็กทอรี่ >"ใจฉัน" ระบบจะทำการจัดการไฟล์ที่มีปัญหารวมทั้งแก้ไขโปรแกรมต่างๆที่มีข้อผิดพลาด แต่ว่าคุณจะต้องลบไฟล์ "การพูดถึงตัวเองในแง่ลบ" และ "ไฟล์การตัดสินผู้อื่น" ออกจากทุกๆไดเร็กทอรี่นะครับ และอย่าลืมเข้าไปลบอีกที ใน Recycle Bin นะครับ เพื่อให้มั่นใจว่าไฟล์พวกนี้ถูกลบจนหมดและไม่มีทางกลับเข้ามาทำความยุ่งยากได้อีก

ลูกค้า : ทราบแล้วคะ เอ๊ะ!! มีไฟล์ใหม่ๆเกิดขึ้นในหัวใจตั้งเยอะคะ " ยิ้ม " กำลังวิ่งเล่นอยู่บนหน้าจอ "สันติสุข" และ "ความยินดี" กำลัง Copy ตัวเองอยู่ทั่วไป ภายในใจฉัน นี่เป็นปกติหรือเปล่า คะ

ช่างเทคนิค : ครับ บางครั้งสำหรับบางคน อาจต้องใช้เวลาหน่อย แต่ท้ายที่สุด สิ่งนี้จะเกิดขึ้นในเวลาที่เหมาะสม นี้โปรแกรมความรักได้ติดตั้งและเปิดใช้งานเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ มีอีกอย่างหนึ่งที่อยากจะบอกก่อนที่จะวางสายครับ ความรักเป็นโปรแกรมให้เปล่า อย่าลืมแบ่งปันให้คนอื่นนะครับ ความรักที่คุณให้ไปจะไม่เหมือนกันในแต่ละคน และความรักนี้จะถูกส่งต่อไปยังคนอื่นๆและส่วนหนึ่งก็จะกลับคืนมาสู่ตัวคุณด้วย และเมื่อนั้น ความรักของคุณก็จะมีการพัฒนาขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง

ลูกค้า : ดิฉันให้สัญญาคะว่าจะแบ่งปันโปรแกรมความรักให้กับคนอื่นๆ รบกวนขอทราบชื่อของคุณหน่อยได้ไหมคะ

ช่างเทคนิค : เรียกผมว่า"ผู้ชันสูตรจิตใจ" หรือ "เราเป็น"(I AM) ก็ได้ครับ คนส่วนใหญ่คิดว่าพวกเขาจะต้องไปตรวจสุขภาพจิตใจปีละครั้ง เพื่อให้หัวใจเขามีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง แต่ผู้ที่สร้างใจ(ผมเอง)ขอแนะนำว่าไม่จำเป็น เพียงแต่คุณคอยหมั่นดูแลความรักให้คงอยู่ในแต่ละวันก็เพียงพอแล้วครับ

แปลโดย พายุแห่งความเปรมปรีดิ์

เครดิต : www.pooyingnaka.com

วิธีง้อคนรัก..สำหรับคนที่มีแฟนโดยเฉพาะ

ใครไม่มีแฟนก็อ่านได้...รู้ไว้ไม่เสียหาย

1. แสดงความเป็นคนจริงใจ
          อย่าพูดโกหกหลอกลวงอีก คุณต้องซื่อสัตย์ ต้องบอกว่า ทำไมคุณถึงทำผิดพลาด และคุณได้เรียนรู้อะไรจากสิ่งที่ทำลงไปบ้าง ทำให้เธอเชื่อว่า คุณไม่สามารถอยู่ได้หากไม่มีเธอ


2. ซื้อของขวัญชิ้นพิเศษให้
          ควรเลือกของขวัญที่มีความหมายพิเศษ โดยเฉพาะลองหาบางสิ่งบางอย่างที่กระตุ้นให้เธอคิดถึง ช่วงเวลาลึกซึ้งของคุณกับเธอที่มีร่วมกัน เช่น ถ้าคุณรู้ใจว่าเธอชอบอะไรมาก ๆ ก็ให้สิ่งนั้นเป็นของขวัญเธอเลย


3. ชวนเธอออกเดท แล้วสังเกตว่าวันวานยังหวานอยู่ไหม?
          ถ้าหลายสิ่งเริ่มลงตัวและทั้งคู่เข้าใจจิตใจกันมากขึ้น ฝ่ายชายควรทำให้เธอเห็นก็คือ คุณเป็นคนโรแมนติกเพียงใด เช่น สร้างบรรยากาศด้วยการชวนเธอเดทเหมือนครั้งเมื่อแรกรัก และชวนให้ระลึกถึงเรื่องดี ๆ ที่ผ่านมา แล้วทำอะไรก็ได้ที่ทำให้เธอมองคุณในทางที่ดีขึ้น

 
4. ทำตัวดี ๆ ไม่ใช่เกเรหรือปล่อยเนื้อ ปล่อยตัวจนหาความเป็นเทพบุตรไม่เจออีกต่อไป
          โดยออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ แต่งตัวให้ดูดี แบบนี้สาวไหนเห็นก็ย่อมอยากกลับไปรักคุณอีก

 
5. บอกไปตรง ๆ เลยว่า คุณยังรักเธออยู่
          ผู้หญิงอยากได้ยินคำสามคำนี้เสมอ ยิ่งได้ยินจากคนที่เธอรักหรือเคยรักด้วยแล้ว มีหรือจะไม่ใจอ่อน

 
6. สะกิดใจเธอว่า ถ้าไม่กลับมารักกัน เธออาจพลาดอะไรดี ๆ ไปก็ได้
          คุณอาจเรียกร้องความสนใจจากเธอ โดยทำให้เธอหึงก็ได้ เผื่อเธอจะชอบคุณใหม่อีกครั้ง หรือไม่ก็อาจ จะหมั่นไส้และเกลียดหน้า หาว่าเจ้าชู้ไปเลยก็ได้ เพราะถ้าจะใช้วิธีนี้ก็ควรระวังด้วย


7. ปรับความเข้าใจ
          คุณปรับตัวเป็นคนใหม่ และอยากปรับความเข้าใจ แต่อย่าใจร้อน เพราะถ้าขนาดอยากปรับความเข้าใจยังปรับความร้อนรนไม่ได้ ก็น่าคิดเหมือนกันว่าจะกลับไปเป็นแฟนกันอีกทีดีไหม


8. อย่าพูดอย่างทำอย่าง
          ถ้าเขาบอกว่ายังรักอยู่ และอยากคืนดี แต่ตัวเองกลับไม่พยายามปรับปรุงตัว ก็ไม่ควรเสี่ยงกับเขาอีก เพราะฉะนั้นอย่าเป็นคนปากอย่างนึง ส่วนการกระทำก็อีกอย่างเลย


9. แสดงให้เห็นว่าคุณเปลี่ยนไปจริง ๆ
          การพูดคำว่า “ผมเต็มใจที่จะเปลี่ยนตัวผมเพื่อคุณ” ย่อมเป็นคำพูดที่ดีเยี่ยมสำหรับออดอ้อนคนรัก แต่พูดแล้วก็ควรปฏิบัติด้วย


10. สัญญาว่าจะเป็นคนรักที่ดี
          รักกันใหม่แล้วก็ยังทำผิดซ้ำ ๆ ย่อมเสียความรู้สึกเปล่า ๆ ฉะนั้นควรทำให้เธอใจชื้นด้วยการสัญญา ว่าจะเป็นแฟนที่ดีตลอดไป (แต่ต้องทำด้วย) และถ้าหลังจากนี้ยังไม่ดีจริง ๆ ก็ควรทิ้งให้ถาวรไปเลย



เครดิต : www.pooyingnaka.com

วันเสาร์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2553

โรงเรียนสอนเวทย์มนต์ศาสตร์ฮอกวอตส์

     สำหรับสาวก Harry Potter เรามีข่าวดีมาบอก....ตอนนี้ได้มีเว็บไซต์ที่ทำให้เราได้เข้าสู่โลกเวทย์มนต์ได้เสมือนจริงแล้ว ซึ่งมีตั้งแต่การคัดสรรเลือกบ้าน , มีการเรียนการสอน , การสอบไล่ , มีกูรูที่แนะนำไม้กายสิทธิ์ที่เหมาะกับบุคลิกและอุปนิสัยของแต่ละคน , หรือถ้าอยากไปเดินเล่นที่ร้านไม้กวาด 3 อัน หรือไปเบิกเงินที่ธนาคารกริงกรอสก็ไม่มีใครว่า หรือถ้าใครใฝ่สูงอยากเป็นศาสตราจารย์ก็สามารถเป็นได้ แถบยังมีการอัพเดทข่าวคราวของ Harry Potter อย่างสม่ำเสมอจากเว็บอีกด้วย

สนใจสามารถเข้าไปดูได้ที่ : http://www.hp-platform934.com/hogwarts/?fromuid=1236

วันศุกร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2553

วิธีทำใจเมื่ถูกนินทาด่าว่า

*  การนินทาไม่ใช่ของใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ เขาประพฤติกันมาตั้งแต่โบราณกาลแล้วคนนั่งนิ่งเขาก็นินทาว่า ทำไมคนนี้ถึงนั่งนิ่งเหมือนคนใบ้ คนพูดมากเขาก็นินทาว่า ทำไมหมอนี่จึงพูด ตลอดเวลาไม่มีหยุดอย่างกับปากเป็นหุ่นชักยนต์ แม้คนพูดพอประมาณเขาก็นินทาว่า ทำไมคนนี้จึงสำคัญว่าคำพูดของตนเหมือนทองคำหรือเงิน พูดคำสองคำก็นิ่งเสียแผ่นดินก็ดีคนก็ยังนินทา

*   คำพูดของคนอื่นเป็นเพียงลมปาก เมื่อพูดแล้วคลื่นเสียงก็จางหายไปในอากาศไม่อาจทิ่มแทงหรือทำอันตราบร่างกายเราได้ เหมือนสายลมอ่อนๆที่พัดมาต้องร่างกายเราแล้วจางหายไป

*  เราอาจถูกคนด่าว่าเสียดสีหรือพูดดูหมิ่นให้เจ็บใจแต่ถ้าเรามีความอดกลั้นพอไม่ตกเป็นทาสของความโกรธและความวู่วามแล้ว สิ่งเหล่านั้นก็จะผ่านไปได้

เครดิต : http://www.dek-d.com/

“คืนรอยยิ้มให้สยาม” 18 – 30 มิถุนายน นี้ ณ สยามเซ็นเตอร์

ช่างภาพชั้นนำของไทย พร้อมเซเลบริตี้คนดัง

ร่วมใจ “คืนรอยยิ้มให้สยาม”

18 – 30 มิถุนายน นี้ ณ สยามเซ็นเตอร์

สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และสยามพารากอน จัดแคมเปญใหญ่ “รวมพลคนรักสยาม” ปฏิบัติการคืนความสุขสู่สังคมไทยโดยจัดกิจกรรมเติมความสุขให้สังคมอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดจับมือช่างภาพชั้นแนวหน้าของไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) จัดโครงการ “คืนรอยยิ้มให้สยาม” นำเสนอความยิ่งใหญ่แห่งรอยยิ้ม ผ่านภาพถ่ายเหล่า ศิลปิน ดารา เซเลบริตี้ บุคคลทั่วไป และรอยยิ้มอื่นๆ นานาชนิด พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้สนใจร่วมแบ่งปันรอยยิ้มเพื่อนำรายได้สมทบกองทุน “รวมกันเราทำได้” โดยนิทรรศการจะจัดขึ้นบริเวณหน้าศูนย์การค้า สยามเซ็นเตอร์ ระหว่างวันที่ 18 – 30 มิถุนายน 2553


“รอยยิ้ม” คือ ภาษาสากลที่คนทุกชาติทุกภาษาต่างเข้าใจความหมายตรงกัน และเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลกว่า รอยยิ้มของคนไทย หรือ “ยิ้มสยาม” นั้น เป็นรอยยิ้มที่แสดงถึงความสุข ความจริงใจ ได้อย่างสวยงาม เป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนชาติใดในโลก คนไทยได้ชื่อว่าเป็นผู้มีมนุษยสัมพันธ์ดี เอื้ออาทรซึ่งกันและกัน มองโลกในแง่ดี และมักมีรอยยิ้มได้ในทุกสถานการณ์อยู่เสมอ ทว่าทุกวันนี้ เมื่อสังคมไทยต้องการกำลังใจจากคนไทยด้วยกัน รอยยิ้ม จึงเป็นสิ่งหนึ่งที่คนไทยจะแบ่งปันความสุขให้แก่กันด้วยวิธีง่ายๆ


ช่างภาพชั้นแนวหน้าของไทย 12 คน ประกอบด้วย อมาตย์ นิมิตภาคย์, ณัฐ ประกอบสันติสุข, วสันต์ ผึ่งประเสริฐ, ธาดา วารีช, วศินบุรี สุพานิชวรภาชน์, สุรัตน์ จริยวัฒนวิจิตร, ชัชวาล จันทโชติบุตร, ธนนนท์ ธนากรกานต์, บิ๊ก – วัชรสิทธิ์ , พลวิทย์ เภตรา , สุรศักดิ์ อิทธิฤทธิ์ และ ชำนิ ทิพย์มณี รวมตัวกันเฉพาะกิจตามคำเชิญของ ชฎาทิพ จูตระกูล ผู้บริหารสูงสุด สยามพารากอน และกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ เพื่อปฏิบัติการพิเศษเติมความสุขสู่สังคมไทย ด้วยการถ่ายภาพรอยยิ้มของผู้คนในแวดวงต่างๆ ทั้ง ศิลปิน ดารา นางแบบ นักร้อง เซเลบริตี้ และประชาชนทั่วไป หรือแม้กระทั่งใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มของสัตว์โลกชนิดต่างๆ จำนวนกว่า 250 ภาพ โดยช่างภาพแต่ละคนต่างถ่ายทอดภาพถ่ายผ่านมุมมองของตนในแบบที่แตกต่างกันไป โดยมี ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ร่วมสนับสนุนปฏิบัติการสร้างรอยยิ้มในครั้งนี้


อมาตย์ นิมิตภาคย์ เชิญเหล่าศิลปิน ดารา นางแบบ นายแบบ อาทิ สินจัย เปล่งพานิช , ณัฐวุฒิ สะกิดใจ, เขมนิจ จามิกรณ์, มาช่า วัฒนพานิช และ มาริโอ เมาเร่อ มาร่วมมอบรอยยิ้มในคอนเซ็ปท์ “Welcome to the Land of Smile” ขณะที่ ณัฐ ประกอบสันติสุข นำกล้องถ่ายภาพคู่ใจมาถ่ายผู้คนที่มาแวะเวียนใน สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ กว่า 100 ชีวิต ในแนวคิด “มายิ้มกัน Smile Every One” ด้านช่างภาพหนุ่มติสต์ ธาดา วารีช ฉีกแนวในคอนเซ็ปท์ “Joop !!! Joop” ไม่ใช่เพียงคนที่ยิ้มได้ ยังมีเพื่อนร่วมโลกที่มีรอยยิ้มอีกมากมาย ส่วน วศินบุรี สุพานิชวรภาชน ถ่ายทอดมุมมองว่า ยิ้มเป็นสิ่งที่เคยขาดหายไปจากใบหน้าของคนไทย แม้บางเวลาอาจมีบางสิ่งทำให้เราลืมที่จะยิ้ม หรือไม่อยากยิ้ม แต่ความรัก ความมีน้ำใจที่คนไทยมีและหยิบยื่นให้แก่กันเสมอ คือ สิ่งที่จะคืนยิ้มให้สยาม และ สุรัตน์ จริยวัฒนวิจิตร ช่างภาพแฟชั่นมือดีขอร่วมแจมด้วยผลงานภาพชุด “สารพันยิ้ม” ยิ้มหลากหลายอารมณ์ของ อนันดา เอฟเวอริ่งแฮม


สำหรับ วสันต์ ผึ่งประเสริฐ ช่างภาพแฟชั่นชื่อดังของเมืองไทย นำภาพรอยยิ้มที่ถ่ายทอดอารมณ์ ความรัก และความรู้สึกได้อย่างลึกซึ้ง มาให้คนรักศิลปะการถ่ายภาพได้สัมผัส “กำแพงรอยยิ้ม wall of smile” ชัชวาล จันทโชติบุตร ช่างภาพสุดสนุก ขอถ่ายทอดรอยยิ้มผ่านแนวคิด “Start at myself” สำหรับ ธนนนท์ ธนากรกานต์ ช่างภาพรุ่นใหม่ที่น่าจับตามองทุ่มฝีมือถ่ายภาพในแนวคิด “ไม่ว่าเวลาไหน รอยยิ้มก็ยังสวยงามเสมอ” ด้านช่างภาพหนุ่ม บิ๊ก วัชระสิทธิ์ ร่วมครีเอทมุมมองผ่านเลนส์ในคอนเซ็ปท์ “Siam Blossoms” พลวิทย์ เภตรา ถ่ายทอดความคิดความรู้สึกผ่านภาพถ่ายชุด “ฟ้าหลังฝน” สุรศักดิ์ อิทธิฤทธิ์ นำผลงานภาพรอยยิ้มเกิดจากความพึงพอใจในตัวเอง “simply happiness” ถ่ายทอดรอยยิ้มจากมุมหนึ่งในประเทศไทย และผลงานภาพรอยยิ้มหลากหลายจากกูรูช่างภาพ ชำนิ ทิพย์มณี

 
ภาพถ่ายต่างๆในโครงการ “คืนรอยยิ้มให้สยาม” จะถูกแต่งแต้มรอยยิ้มทั่วบริเวณด้านหน้าของศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของประเทศไทย ให้ทั้งชาวไทย และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้สัมผัสกับเสน่ห์แห่งยิ้มสยามอย่างใกล้ชิด เพื่อคืนนิยาม “Thailand Land of Smiles” ให้คงอยู่คู่ประเทศไทย นอกจากนี้ ยังเปิดรับบริจาค “รอยยิ้ม” จากผู้สนใจทั่วไป เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโครงการโดยการถ่ายภาพโพรารอยด์ รอยยิ้ม และร่วมจัดแสดงในบริเวณนิทรรศการ เพียงภาพละ 100 บาท เพื่อนำรายได้สมทบกองทุน “รวมกันเราทำได้” ซึ่งเป็นกองทุนช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบ โดยกรุงเทพมหานคร


เชิญสัมผัสความสุขจากหลากหลายรอยยิ้มได้ ในโครงการ “คืนรอยยิ้มให้สยาม” ซึ่งจะมีระหว่างวันที่ 18 – 30 มิถุนายน 2553 ณ บริเวณหน้าศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ สอบถามรายละเอียด โทร. 0-2658-1000 ต่อ 750
 
 
เครดิต : http://www.dek-d.com/
 
 

วันพฤหัสบดีที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2553

กรุ๊ปเลือด เพื่อสุขภาพ (กรุ๊ป O)

กรุ๊ปเลือด O


สิ่งที่ควรทำ

1. มีแผนการที่ชัดเจนเกี่ยวกับเป้าหมายที่ต้องการบรรลุ โดยกำหนดเป็นรายปี เดือน สัปดาห์หรือต่อวัน

2. หลีกเลี่ยงการตัดสินใจในเรื่องใหญ่ๆ และอย่าใช้เงินเมื่อเกิดความรู้สึกเครียด

3. หากรู้สึกเครียดหรือหงุดหงิดพยายามทำให้ร่างกายเกิดความเคลื่อนไหว

4. เมื่อเกิดความอยากเหล้า บุหรี่ น้ำตาล และยานอนหลับ สิ่งเหล่านี้จะกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารที่ทำให้เกิดความสุขในระยะแรกเท่านั้น ควรหากิจกรรมอย่างอื่นแทน

กินอย่างไร

          อาหารประเภทโปรตีนเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่มีกรุ๊ปเลือดO ควรรับประทานเนื้อสัตว์ต่างๆให้มาก ยกเว้นหมู นมและผลิตภัณฑ์จากนมให้บริโภคแต่น้อย เพราะร่างกายจะย่อยได้ยาก จำกัดปริมาณการบริโภคถั่ว รับประทานผักผลไม้ให้มากและเปลี่ยนมาดื่มชาเขียวแทนกาแฟ

ออกกำลังกาย

         คนมีกรุ๊ปเลือด O ที่ออกกำลังสม่ำเสมอจะมีการตอบสนองต่ออารมณ์ดียิ่งขึ้น การเต้นแอโรบิค วิ่งหรือปั่นจักรยาน ครั้งละ 30 - 45 นาที ประมาณ 3 ครั้งต่อสัปดาห์ จะช่วยให้เกิดสภาวะสมดุลของอารมณ์

จัดการกับอารมณ์

1. กำหนดแผนการว่าจะทำอะไรเพื่อลดความซ้ำซากจำเจ เพราะเมื่อคนกรุ๊ปเลือด O รู้สึกเบื่อพวกเขามักทำอะไรเสี่ยงๆ

2. ฝึกรับมือกับความโกรธด้วยวิธีการดังนี้เมื่อรู้สึกว่าไม่สามารถควบคุมอารมณ์โกรธ ไปเดินเล่นสักพัก ดื่มน้ำ ออกกำลังหรือเขียนระบายความรู้สึกออกมา รอจนกว่าจะหายโกรธแล้วค่อยกลับมาจัดการกับปัญหา อีกวิธีคือเรียนรู้วิธีการแก้ปัญหา บ่อยครั้งความโกรธมีสาเหตุมาจากการเสียความสามารถในการควบคุม

         เมื่อคุณเลือกที่จะแก้ปัญหามากกว่าจะระเบิดอารมณ์โกรธออกมา ก็จะสามารถควบคุมระดับความเครียดในร่างกายให้คงที่ได้

กรุ๊ปเลือด เพื่อสุขภาพ (กรุ๊ป AB)

กรุ๊ปเลือด AB



สิ่งที่ควรทำ

1. ฝึกฝนนิสัยเป็นมิตรของคุณโดยเปิดรับสิ่งใหม่ๆ รอบตัว และหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่มีการแข่งขันสูง

2. เลิกหมกมุ่นกับปัญหาที่ไม่สามารถควบคุมได้หรือไม่ได้มีผลกระทบต่อคุณ

3. ฝึกใช้จินตนาการเป็นประจำทุกวัน

4. มีแผนการที่ชัดเจนเกี่ยวกับเป้าหมายที่ต้องการบรรลุโดยกำหนดเป็นรายปีเดือน สัปดาห์หรือต่อวัน

5. ค่อยๆ เปลี่ยนรูปแบบการดำเนินชีวิตอย่าพยายามจัดการกับทุกสิ่งในเวลาเดียวกัน


กินอย่างไร

          ผู้ที่มีกรุ๊ปเลือด AB ต้องจำกัดปริมาณเนื้อสัตว์สีแดงและไม่ควรรับประทานเนื้อไก่ เนื่องจากร่างกายมีกรดไฮโดรคลอริกในกระเพาะอาหารและน้ำย่อยในลำไส้มีปริมาณน้อย ทำให้ย่อยอาหารได้ยากเปลี่ยนมาบริโภคผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง ปลา ไข่ไก่ และผักแทน อาหารที่ควรเลี่ยง สำหรับคนกรุ๊ปเลือด A และ B ก็ควรจะเลี่ยงในผู้ที่มีกรุ๊ปเลือด AB ด้วยกัน เช่น ไม่ควรบริโภค คาเฟอีน และแอลกอฮอล์มากเกินไป เพราะคาเฟอีนจะไปกระตุ้นให้ร่างกาย หลั่งสารอะดรีนาลีน และนอร์อะดรีนาลีน ซึ่งคนกรุ๊ปเลือด AB มีมากอยู่แล้ว ไม่ควรอดอาหารเพราะจะทำให้เกิดความเครียด


ออกกำลังกาย

          ผู้ที่มีกรุ๊ปเลือด AB ควรทำกิจกรรมทั้งประเภทที่ก่อให้เกิดความสงบนิ่งและใช้แรงมาก เช่น โยคะและ การเต้นแอโรบิค


จัดการกับอารมณ์

1. วางแผนล่วงหน้าว่าจะทำอะไรเพื่อช่วยลดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันและไม่ให้เกิดความเร่งรีบจนทำอะไรไม่ถูก

2. หยุดพักในวันทำงานด้วยการทำกิจกรรมที่มีการเคลื่อนไหวโดยเฉพาะถ้างานของคุณต้องนั่งอยู่กับที่ เพราะจะช่วยให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้น

3. ปลีกเวลาไปตอบแทนสังคมบ้างเพราะคนกรุ๊ปเลือดนี้มีพื้นฐานเป็นคนใจบุญสุนทาน และเห็นอกเห็นใจเพื่อนร่วมโลกซึ่งอาจใช้วิธีบริจาคเงินหรือสิ่งของให้แก่ผู้ยากไร้

กรุ๊ปเลือด เพื่อสุขภาพ (กรุ๊ป B)

กรุ๊ปเลือด B


สิ่งที่ควรทำ

1. สำหรับคนที่มีกรุ๊ปเลือดนี้จิตนาการเป็นเครื่องมืออันทรงพลังที่จะพาไป สู่ความสำเร็จได้ในยามว่างควรฝึกใช้จินตนาการเพื่อช่วยให้ผ่อนคลาย

2. สังสรรค์สมาคมกับเพื่อนๆ คนรอบข้างหรือร่วมกิจกรรมร่วมกับผู้อื่น สิ่งนี้จะเป็นโอกาสช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ็อันดีในกลุ่มให้กับคุณ

3. จงทำตัวให้เป็นธรรมชาติ


กินอย่างไร

          ผู้ที่มีกรุ๊ปเลือด B ควรบริโภคเนื้อสัตว์ที่ปลอดสารปรุงแต่งเจือปนและไม่ติดมัน หลายๆ ครั้งใน 1 สัปดาห์เพราะคนหมู่เลือดนี้สามารถเผาผลาญโปรตีนจากเนื้อสัตว์ได้ดี ไม่ควรบริโภคอาหาร ประเภทคาร์โบไฮเดรตมากเกินไป และหลีกเลี่ยงเนื้อไก่ แต่นมและผลิตภัณฑ์จากนมกลับเหมาะ สำหรับคนกรุ๊ปเลือด B เป็นอย่างมาก


ออกกำลังกาย

          ผู้มีกรุ๊ปเลือด B ควรออกกำลังกายประเภทท้าทายร่างกายและจิตใจ กิจกรรมที่เหมาะต้องเป็นประเภทที่ใช้สมาธิควบคู่กับการออกแรงมาก เช่น เทนนิส ศิลปะการต่อสู้ ปั่นจักรยาน เดินทางไกล และกอล์ฟ


จัดการกับอารมณ์

          คนกรุ๊ปเลือด B เมื่อร่างกายอยู่ในสภาวะสมดุล ก็จะสามารถขจัดความเครียด และความวิตกกังวลลงได้ แต่เมื่อใดที่ไม่อยู่ในสภาวะสมดุลระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลจะเพิ่มสูงขึ้น และทำให้มีโอกาสที่จะติดเชื้อไวรัส เกิดอาการเหนื่อยล้าเป็นเวลานาน

          จิตใจมัวหมองและภูมิคุ้มกันบกพร่อง สิ่งที่ต้องทำ คือ ลดฮอร์โมนคอร์ติซอล ที่ร่างกายหลั่งออกมาเพื่อตอบสนองต่อสภาวะเครียด ด้วยการทำสมาธิและการใช้จินตนาการหากิจกรรมที่กระตุ้นให้เกิดสมาธิ ซึ่งไทชิจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดนอกจากช่วยลดความเครียดแล้วยังลดความดันโลหิต และทำให้รู้สึกผ่อนคลายช่วยให้อารมณ์ดีขึ้น และอาจฟังดนตรีแนวที่ช่วยลดความเครียดหรือเพลงที่ทำให้เกิดจินตนาการ


กรุ๊ปเลือด เพื่อสุขภาพ (กรุ๊ป A)

กรุ๊ปเลือด A


สิ่งที่ควรทำ

1.ฝึกฝนการใช้ความคิดสร้างสรรค์และรู้จักแสดงความรู้สึกออกมาบ้าง

2.วางแผนการที่จะทำในแต่ละวัน

3.หาเวลาพักระหว่างวันทำงานอย่างน้อย 2 ช่วงๆ ละ 20 นาที ใช้เวลานั่งคิดไตร่ตรองสิ่งต่างๆ

4.รับประทานอาหารให้ครบทุกมื้อ

5.บริโภคโปรตีนเพิ่มมากขึ้นในมื้อเช้าและลดปริมาณลงในมื้อเย็น

6.ไม่ควรกินเมื่อรู้สึกหงุดหงิด

7.เปลี่ยนมารับประทานอาหารมื้อเล็กๆ 6 มื้อ ต่อวัน แทน 3 มื้ออย่างเคย เพราะจำนวนครั้งที่ถี่มาก ขึ้นช่วยให้ระบบการเผาผลาญทำงานดีขึ้น

8.หาเวลาครึ่งชั่วโมงฝึกจิตใจให้สงบสัก 3 ครั้งต่อสัปดาห์

9.หมั่นตรวจร่างกายเป็นประจำเพื่อป้องกันโรคมะเร็งและหัวใจ

10.เคี้ยวอาหารให้ละเอียดเพื่อช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น


กินอย่างไร

          คนที่มีกรุ๊ปเลือด A ควรงดนมสดรวมทั้งผลิตภัณฑ์จากนม เช่น เนยและชีส เพราะจะทำให้รู้สึก แน่นท้อง เกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ หันมารับประทานผักใบเขียวและใบเหลืองอย่างฟักทอง แครอท ผักขม บร็อคโคลี่ และพืชตระกูลถั่ว โดยเฉพาะถั่วเหลืองซึ่งเป็นแหล่งอาหารที่มีโปรตีนสูงและ ช่วยป้องกันโรคมะเร็งด้วย

          ไม่ควรบริโภคเนื้อสัตว์มากเกินไปเพราะผู้ที่มีหมู่เลือดนี้ จะไม่ค่อยมีเอนไซม์และกรดในกระเพาะอาหารที่จำเป็นต่อการย่อยโปรตีนจากเนื้อสัตว์

          ดื่มชาเขียวเป็นประจำจะช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันได้ ควรจำกัดน้ำตาล คาเฟอีน และแอลกอฮอล์ เพราะสิ่งเหล่านี้จะไปเพิ่มความเครียด และทำให้กระบวนการเผาผลาญพลังงานในร่างกายทำงานช้าลง
          อาหารเช้าควรอุดมด้วยโปรตีน สำหรับคนกรุ๊ปเลือด A อาหารเช้าถือเป็นมื้อสำคัญที่สุด และไม่ควรอดอาหารเพราะจะก่อให้เกิดความเครียดได้ ออกกำลังกาย

          คนกรุ๊ปเลือด A จะมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อความเครียดสูงมาก เนื่องจากร่างกายผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอลออกมาในปริมาณสูง แต่ฮอร์โมนดังกล่าวสามารถลดลงถ้าได้ทำกิจกรรมที่ร่างกายต้องจดจ่ออยู่กับสิ่งๆหนึ่ง อย่างโยคะ ไทชิ หรือฝึกสมาธิกำหนดลมหายใจ


จัดการกับอารมณ์

1. ระบายความรู้สึกออกมาถ้าต้องการอย่าเก็บกดเอาไว้

2. ก่อนจะเริ่มกิจกรรมหรืองานอื่นต้องจัดการสิ่งที่ยังคั่งค้างอยู่ให้เสร็จ

3. เด็ดเดี่ยว กล้าตัดสินใจการผัดวันประกันพรุ่งจะทำให้เกิดความเครียดได้

4. ใน 1 เดือน หาเวลา 1 วัน อยู่เงียบๆ เพียงลำพัง

5. หากออกกำลังกาย อย่าหักโหมต้องหยุดพักก่อนถึงขีดจำกัดของร่างกาย

วันจันทร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ค่า ...SPF ....คืออะไร ? คุณรู้หรือยัง

ผลิตภัณฑ์ยากันแดดส่วนใหญ่จะระบุค่า SPF (Sun Protection Factor) หรือแปลเป็นไทยว่า ค่าการป้องกันแสงแดด ถ้าเคยตากแดดแล้วผิวไหม้แดง ในเวลา 15 นาที หากทายากันแดดที่มี SPF= 6 ผิวจะไหม้ในเวลาเป็น 6 เท่าคือ 90 นาที (6x15=90) ถ้าค่า SPF= 8 ผิวจะไหม้ในเวลา 2 ชั่วโมง (8x15=120)

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันได้มีคำนิยามใหม่ของค่า SPF (Sun Protection Factor) โดยใช้สูตรสำหรับหาค่า SPF คือ

SPF = MED บริเวณที่ทายากันแดด / MED บริเวณที่ไม่ได้ทายากันแดด

โดย MED นั้นย่อมาจาก minimal erythematous dose คือ ปริมาณแสงแดดที่น้อยที่สุด ที่ทำให้เกิดอาการแดงที่ผิวหนัง ซึ่งอาการแดงนั้นเป็นจุดที่สังเกตเห็นด้วยตา มีการศึกษาพบว่า ปริมาณแรงที่เป็น suberythemal dose (คือปริมาณแสงที่ยังน้อยกว่าจะทำให้เกิดอาการแดง) ก็ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ผิวหนังและมีการทำลายเซลล์ของผิวหนังเกิดขึ้นแล้ว ดังนั้นในอนาคตอาจต้องมีวิธีที่จะวัดการทำลายผิวหนังของแสงแดดที่ดีกว่าอาการแดง เช่น การดูลักษณะของเซลล์ผิวหนังที่เปลี่ยนไปจากการไหม้แดด (sunburncell) การดูลักษณะของเส้นใยอิลาสตินที่เปลี่ยนรูปร่าง การลดลงของจำนวน Langerhans cell ซึ่งเป็นเซลล์ที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิต้านทาน เพื่อหาประสิทธิภาะของการกันแดด

โดยที่ปริมาณของยากันแดดที่เป็นมาตรฐานในการหาค่า SPF นั้น ต้องทายากันแดดปริมาณ 2 มิลลิกรัม ต่อเนื้อที่ผิวหนัง 1 ตารางเซนติเมตร ดังนั้นหากปริมาณแสงแดดที่จะทำให้บริเวณที่ทายากันแดดนั้นเกิดอาการแดง มีปริมาณมากกว่าบริเวณที่ไม่ได้ทายากันแดด 5 เท่า ยากันแดดนั้นก็จะมีค่า SPF 5 ซึ่งในทางปฏิบัตินั้นจะแปลว่าปริมาณแสงเป็นเวลาแทน

ทั้งนี้มีข้อสังเกตว่า

1. การใช้ค่า MED นี้ อาจไม่สะท้อนถึงประสิทธิภาพภายในการป้องกันผิวหนัง จากการทำลายของแสงแดด นั่นคือยากันแดดถึงจะป้องกันไม่ให้ผิวหนังแดงได้ แต่ก็ยังอาจเกิดการเสื่อมของผิวหนังขึ้นแล้ว

2. ปริมาณของการใช้ยากันแดดในการหาค่ามาตรฐาน คือ ต้องทายากันแดด 2 มิลลิกรัมต่อเนื้อที่ผิวหนัง 1 ตารางเซนติเมตรนั้น นับว่ามากกว่าปริมาณการใช้ในชีวิตจริง คนปกติจะทายากันแดดแค่ 0.5 ถึง 1 มิลลิกรัมต่อเนื้อที่ผิวหนัง 1 ตารางเซนติเมตรเท่านั้น ทั้งนี้เพราะ หากทายากันแดดมากไปจะเกิดปัญหาด้านความมันและความสวยงาม

สำหรับยากันแดดชนิดที่ละลายน้ำได้น้อยนั้น มีชื่อคือ

Water resistant หมายถึงการหาค่า SPF หลังอยู่ในน้ำ 40 นาที

Waterproof (=very water resistant) หมายถึงการหาค่า SPF หลังอยู่ในน้ำ 80 นาที

โดยการใช้ยากันแดดตามค่า SPF นี้มักดูตามลักษณะของสีผิวคือ

1. ถ้าผิวไหม้แดดง่าย โดยผิวเปลี่ยนเป็นสีแทนยาก ใช้ค่า SPF 20-30 (Ultra high)

2. ถ้าผิวไหม้แดดง่าย โดยผิวอาจมีสีแทนนิดหน่อย ใช่ค่า SPF 12-20 (Very high)

3. ถ้าผิวไหม้แดดปานกลาง และผิวค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีแทนใช้ค่า SPF 8-12 (High)

4. ถ้าผิวไหม้แดดได้น้อย และผิวเปลี่ยนเป็นสีแทนได้เสมอ ใช่ค่า SPF 4-8 (Moderate)

5. ถ้าผิวไหม้แดดยากมาก และผิวเปลี่ยนเป็นสีแทนได้อย่างมาก ใช้ค่า SPF 2-4 (Minimal)

เมื่อดูจากค่า SPF และปริมาณการดูดซับรังสียูวีบี พบว่า

ค่า SPF เท่ากับ 2 จะดูดซับ UVB ได้ 50%

ค่า SPF เท่ากับ 4 จะดูดซับ UVB ได้ 75%

ค่า SPF เท่ากับ 8 จะดูดซับ UVB ได้ 87.5%

ค่า SPF เท่ากับ 15 จะดูดซับ UVB ได้ 93.3%

ค่า SPF เท่ากับ 20 จะดูดซับ UVB ได้ 95%

ค่า SPF เท่ากับ 30 จะดูดซับ UVB ได้ 96.7%

ค่า SPF เท่ากับ 45 จะดูดซับ UVB ได้ 97.8%

ค่า SPF เท่ากับ 50 จะดูดซับ UVB ได้ 98%

เมื่อดูตามนี้จะเห็นว่า เมื่อใช้ยากันแดดค่า SPF เท่ากับ 15 จะดูดซับ UVB ได้ 93.3% ซึ่งเมื่อเพิ่ม SPF ขึ้นจะเพิ่มประสิทธิภาพขึ้นไม่มากนัก และยากันแดดที่มีค่า SPF สูงมักมีปัญหาด้านความงามและมีราคาแพง จากมุมมองนี้อาจไม่จำเป็นต้องใช้ SPF สูงนัก

แต่ก็มีปัจจัยต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปได้และมีผลต่อการออกฤทธิ์ของยากันแดด เช่น การทา การสวมใส่เสื้อผ้า การมีเหงื่อออก ลม เหงื่อ การว่ายน้ำ ฯลฯ และมีความจริงที่ว่า ยากันแดดที่มีค่า SPF สูงนั้น จะมีประสิทธิภาพในการกันแสงแดดในช่วงยูวีเอ โดยเฉพาะยูวีเอ II ที่ดีขึ้น ซึ่งรังสีตัวนี้ทำให้เกิดการเสื่อมของผิวหนังได้มาก นอกจากนั้นการหาค่า SPF จะเป็นการหาค่าในห้องทดลอง ซึ่งเมื่อนำยากันแดด มาใช้ในชีวิตจริงจะพบว่ามีค่า SPF น้อยกว่าที่ระบุเสมอ ทั้งนี้เพราะมีปัจจัยต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลง

จึงแนะนำว่าควรใช้ยากันแดดค่า SPF สูง (15 ขึ้นไป) ในกรณีที่ต้องตากแดด เป็นเวลานานติดต่อกันและใช้ค่า SPF ต่ำ ในกรณีที่โดนแดดเป็นครั้งคราวระหว่างวันครับ สำหรับข้อมูลนี้ส่วนหนึ่งมาจากการประชุมของสมาคมศิษย์เก่าสถาบันโรคผิวหนัง โดยมีอาจารย์จิโรจ สินธวานนท์ เป็นผู้บรรยาย


นพ.ประวิตร พิศาลบุตร

เครดิต : http://www.pooyingnaka.com/

นั่ง ยืน แบบไหน? ลดปวดเมื่อย

การมองข้ามความสำคัญของท่านั่ง ท่ายืนที่ถูกต้อง อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมา อาทิ อาการปวดเมื่อยหลัง หรือปวดศีรษะ


สำหรับท่านั่งที่ถูกต้อง คือ...


-นั่งหลังตรง โดยไม่ทิ้งน้ำหนักกดสันหลังช่วงล่าง
-ไม่งอหรือห่อไหล่ และนั่งให้เต็มเก้าอี้
-พิงหลังชิดพนัก หาหมอนหรือผ้าหนุนบริเวณส่วนเว้าของพนักพิง
-วางปลายเท้าทั้งสองข้างให้ถึงพื้น และกระจายน้ำหนักให้เท่ากัน
-พับเข่าทำมุม 90 องศา ในระดับเดียวกับสะโพก
-ส่วนแขนปล่อยวางข้างลำตัว พร้อมนั่งแขม่วหน้าท้องเล็กน้อย หายใจให้เป็นธรรมชาติ
- ไม่ควรนั่งไขว่ห้าง เพราะเป็นการบิดตำแหน่งเชิงกรานให้ผิดลักษณะ ส่งผลให้น้ำหนักขาตกอยู่ที่เส้นเอ็นและกระดูกอ่อน
-ขณะนั่ง หมั่นยืดหลังให้บริเวณอกแอ่นไปด้านหน้า ค้างไว้ครั้งละ 20 วินาที เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อหน้าท้องและผ่อนน้ำหนักจากข้อต่อสันหลัง


เมื่อต้องการเปลี่ยนอิริยาบถจากนั่งเป็นยืน ให้ขยับตัวไปด้านหน้าของเก้าอี้ ก่อนทิ้งน้ำหนักที่ขา ยืดขาช้า ๆ พยายามอย่ายืนขึ้นในลักษณะสันหลังช่วงเอวโก่งงอ


ส่วนท่ายืนที่ถูกต้อง คือ...

-ศีรษะและคอตั้งตรง
-ไม่เกร็งช่วงไหล่ และกระดูกไหปลาร้า ให้อยู่ในลักษณะผายออกอย่างผ่อนคลาย
-สะโพกทั้งสองข้างให้อยู่ในระดับเสมอกัน
-งอเข่าเล็กน้อย ไม่ควรเหยียดยืดให้ตรงเกินไป
-ข้อเท้าทั้งสองข้าง ควรทิ้งน้ำหนักตัวเฉลี่ยเท่า ๆ กัน


การนั่งและยืนอย่างถูกต้อง นอกจากจะทำให้ดูสง่าผ่าเผยแล้วยังช่วยลดการเสื่อมของข้อต่อ ลดความตึงของเส้นเอ็น กล้ามเนื้อไม่เกิดอาการอ่อนล้า ป้องกันอาการปวดหลัง-ปวดศีรษะ ลดความเสี่ยงจากการเจ็บกล้ามเนื้อฉับพลันได้.

เครดิต : http://www.pooyingnaka.com/

45 เรื่องแปลก..แต่จริงบนโลก! (อ่านขำๆ อย่าไปเครียส...)

1. ไซบีเรียขายนมเป็นก้อนๆ


2. ถ้าตัดสมองเป็นสองส่วน คุณจะไม่รู้สึกเจ็บอีกต่อไป


3. ผลจากการสำรวจหญิงนิวยอร์พบว่ามากกว่า 26 เปอร์เซ็นต์เป็นสังคัง


4. สถิตการส่งพิซซ่าที่ไกลที่สุดในโลกคือ 19,950 กิโลเมตรโดยเป็นการส่งพิซซ่าโดยร้าน Vegetarian Supreme ในลอนดอน มายังเมลเบิร์น ออสเตเลีย


5. ถ้าเราจะนับว่าโลกมีตัวต่อเลโก้เท่าไหร่ให้เอาจำนวนประชากรโลกทั้งหมดคูณด้วย 65 (แค่ค่าเฉลี่ย)


6. รัฐบาลสวีเดนปรับสามีภรรยาคู่หนึ่งที่ตั้งชื่อลูกว่า "Brfxxccxxmnpcccclllmmnprxvclmnckssglbb11116"


7. คนอเมริกา 6% ไม่รู้จักชื่อเมืองหลวงของตนเอง


8. คิงโพธิ์แดงเป็นไพ่คิงใบเดียวในสำรับที่ไม่มีหนวด


9. หนูถึงจุดสุดยอดนานครึ่งชั่วโมง


10. เมืองที่มีสาวสวยที่สุดในโลกคือเมืองบัวโนสไอเรส อาร์เจนตินา


11. บริษัททำมีดโกนชื่อ Wilkinson ก่อตั้งในปี 2315 โดยดั่งเดิมมีความวชาญในการทำมีดดาบ


12. จากทารก 17000 คน จะมีเด็ก 1 คนที่เป็นเด็กเผือก


13. กล้องที่แพงที่สุดในโลกมีชื่อว่า Daguerreotype ประมูลไป 1.1 ล้านเหรียญสหรัฐ


14. น้ำนมยีราฬถูกรับรองเป็นอาหารของชาวยิวผู้เคร่งศาสนา ได้


15. 22 เปอร์เซ็นต์ของผู้หญิงออสเตรเลียที่อายุเกิน 30 ปี เคยถ่ายวีดีโอในขณะมีเซ็กซ์


16. คนตัดไม้แคนนาดาใช้หมีในการไล่สัตว์อื่นๆ ออกจากป่าก่อนเข้าไปตัดไม้


17. ช้างตั้งท้องนาน 22 เดือน และช้างทารกมีน้ำหนักมากกว่า 120 กก.


18. ใน 1 วัน เลือดจะเดินทางในร่างกายประมาณ 19,300 กิโลเมตร


19. อเล็กซานเดอร์มหาราช เป็นกษัตริย์พระองค์แรกที่สั่งให้ทหารทั้งหมดโกนเครา ให้เรียบร้อย หลังจากที่ทหารของพระองค์ตายจำนวนมากจากการโดนข้าศึก คว้าหนวดเคราในการต่อสู้ประชิดตัว


20. ในปี 2491 รัฐไอดาโฮเคยออกกฎหมายว่าใครเจอกันแล้วไม่ยิ้มถือว่า ผิดกฎหมาย


21. รถ KITT จากซีรีย์อเมริกัน Knight Rider เคยถูกเอาไปประมูล ด้วยราคาเริ่มต้น 54,000 เหรียญสหรัฐ


22. คลื่นที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สูง 516 เมตร เกิดจากแผ่นดินไหว 8.3 ริกเตอร์ ในปี 2501


23. ไมอามี่เป็นเมืองเดียวในประเทศอเมริกาที่ก่อตั้งโดยผู้หญิง


24. ชายหาดที่ยาวที่สุดในโลกคือหาด Praia do Cassino ทางภาคใต้ของราซิลยาวถึง 240 กม.


25. ในปี 2463 ผู้ผลิตรถยนต์ในสหรัฐเคยผลิตรถยนต์ที่ชื่อ The Rugy


26. มดเป็นสัตว์โลกชนิดเดียว ที่ไม่เคยหลับ นอน หรือหยุดการเคลื่อนไหว


27. จากการรายงานวิจัยล่าสุด พบว่าผู้บริหารขอมีเพศสัมพันธ์กับสาวๆ ในออฟฟิศ จะได้รับการตอบรับ 92 เปอร์เซ็นต์


28. ชาวอเมริกันกินเนื้อหมูตลอดอายุไขตัวเอง รวมแล้วเท่ากับหมู 28 ตัว


29. สถิตการปล้นธนาคารพบว่าส่วนใหญ่โจรจะลงมือวันศุกร์


30. สัตว์ในตระกูลกิ่งก่า (ไม่รวมจิ้งจก) มีชนิดเดียวเท่านั้นที่ส่งเสียงร้องได้นั้นคือตุ๊กแก


31. เมื่อยานอพพอลโล ทะยานสู่นอกโลก สิ่งแรกที่มนุษย์อวกาศลงมือปฏิบัติการอย่างเร่งด่วนคือ มันมีแมลงสาปเข้ามาในยาน 1 ตัว


32. สัตว์กินเนื้อทุกชนิดในโลกจะไม่กินเนื้อสัตว์ที่ตายเพราะฟ้าผ่า แม้แต่อีแร้ง


33. ระเบิด ลูกแรกที่ฝ่ายทหารสัมพันธมิตร ในสงครามโลกครั้งที่ 2 หย่อนลงในเบอร์ลิน เยอรมันนี ปรากฏว่ามันหล่นในสวนสัตว์ส่งผลให้ช้างตายไป 1 เชือก


34. นักบินอวกาศที่กำลังไปท่องอวกาศจะมีกฎไว้ว่าห้ามกินถั่วเป็นก่อนหน้าเดินทาง 3 วัน เพราะอาจผายลมในขณะอยู่ชุดอวกาศได้


35. ชื่อ เพลงที่ยาวที่สุดในโลกแต่งขึ้นเมื่อปี 1943 โดยฮอกี้ คาร์มิเคิล ชื่อเพลง " I'm a Cranky Old Yank in a Clanky Old Tank on the Streets of Yokohamaa with my Honolulu MaMa Doin' Those Beat-o,Beat-o Flat-on-My-Seaat-o,Hirohito Blues"


36. คุณจะถูกยุงตอมเมื่อคุณกินกล้วยเมื่ออกมาอยู่กลาง แจ้ง


37. บีโธเฟน นักแต่งเพลงก้องโลก ก่อนตายเขากล่าวคำสุดท้ายว่า "เพื่อนๆ ทั้งหลายจงปรบมือเถิด..........ละคร...ตลกกำลังจบลงแล้ว"


38. ทุกๆ ช่วงสี่ปี โธมัส เอดิสัน จะจดทะเบียนสิ่งประดิษฐ์ขึ้น โดยใช้เวลาร่างสิ่งประดิษฐ์นั้นแค่ 5 วัน


39. คำว่าแคนาดา เป็นคำภาษาอินดียแดงแปลว่า "หมู่บ้านใหญ่"


40. ประเทศไทยมีสถิตผู้สูบบุหรี่น้อยที่สุดเป็นอันดับต้นๆ ของโลก


41. แต่ประเทศไทยติดอันดับคนเสพยาบ้ามากที่สุดติดอันดับต้นๆ ของโลกแทน


42. จิม มอริสสัน (ใครฟ่ะ) นักร้องเพลงร็อกชื่อดังปี 60 เขาเป็นนักร้องคนแรกที่โดนตำรวจจับบนเวที เพราะขณะร้องเพลง ซิปดันไม่รูด


43. การประหารชีวิตนักโทษด้วยเครื่องกิโยตินครั้งสุดท้าย เกิดขึ้นที่เมืองแวร์ซายส์ 17 มิถุนายน 1939 มีผู้ร่วมงานจำนวนมากพร้อมในอาหารตั้งโต๊ะไปกินแบบดินเนอร์ด้วย


44. สถิตสิงห์อมควันมากที่สุดในโลกไม่ใช้จีนแต่เป็นประเทศแถบกรีนแลนด์


45. ที่อิสราเอล การพูดคุยโทรศัพท์มือถือในรถ มีความผิดถึงขั้นเป็นคดีอาญา

เครดิต : http://www.Dek-d.com/

วันเสาร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2553

say-hi

มาแว้ววว...Blog ใหม่ของช้านนนน